ข่าวไก่ชนในประเทศไทย อัปเดตล่าสุด วงการไก่ชนไทยปี 2568

วงการไก่ชนไทยในปี 2568 เติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง

วงการไก่ชนในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และจัดการแข่งขันไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายไก่ชนก็มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะไก่ชนสายพันธุ์ยอดนิยมที่สามารถทำราคาหลักแสนถึงหลักล้านบาท

การแข่งขันที่สนามดัง “สนามไก่ชนเทิดไท” และ “สนามกีฬาชนไก่มหาลาภ”

การแข่งขันไก่ชนในปีนี้ยังคงคึกคัก โดยเฉพาะสนามยอดนิยมอย่าง สนามไก่ชนเทิดไท กรุงเทพมหานคร ที่มีการจัดแข่งขันรายการพิเศษประจำเดือน พร้อมเงินรางวัลสูงสุดถึง 1 ล้านบาท และ สนามกีฬาชนไก่มหาลาภ จังหวัดนครปฐม ซึ่งจัดเป็นสนามมาตรฐานที่นักเลงไก่ชนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจ

ไก่ชนสายพันธุ์ยอดนิยมปี 2568

ในปีนี้ มีไก่ชนหลายสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของฝีมือการชนและความสวยงามของรูปลักษณ์ โดยสายพันธุ์เด่น ๆ มีดังนี้

1. ไก่ชนพม่า

จุดเด่น: ชนเร็ว ไว ทักษะหลบหลีกดี
ความนิยม: ยังครองแชมป์ในหมู่ไก่สายตี เพราะมีฝีเท้าจัดและตีแม่น

2. ไก่ชนเหลืองหางขาว

จุดเด่น: ตำนานสายพันธุ์ไทยแท้ สืบทอดตั้งแต่สมัยอยุธยา
ความนิยม: เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่เพราะฝึกง่าย แข็งแรง

3. ไก่ชนลูกผสม (พม่าผสมไทย)

จุดเด่น: มีความสมดุลทั้งด้านทักษะและความอึด
ความนิยม: ได้รับความนิยมสูงมากในสนามใหญ่ เพราะฟอร์มดีและจับจังหวะได้แม่นยำ

เทคนิคการเลี้ยงไก่ชนสมัยใหม่

สำหรับปี 2568 ผู้เลี้ยงไก่ชนเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการเลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารตามสูตร การใช้วิตามินเสริม การดูแลรักษาร่างกายไก่ชนหลังแข่ง รวมถึงการฝึกซ้อมโดยใช้อุปกรณ์ทันสมัย เช่น เครื่องเดินไก่ชน และการทำสปาไก่เพื่อฟื้นฟูร่างกาย

อาหารเสริมยอดนิยมสำหรับไก่ชน

สมุนไพรไทย เช่น กระชายดำ โสมไทย
อาหารเสริมโปรตีนสูง เช่น ปลายข้าวผสมไข่แดง
วิตามินรวม เช่น วิตามิน B12 และแร่ธาตุจำเป็น

เคล็ดลับการฝึกซ้อมไก่ชน

เดินเช้า 15-30 นาที เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ
ฝึกตีเป้า 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเสริมความแม่นยำ
อาบน้ำไก่ด้วยสมุนไพรช่วยลดการอักเสบ

แนวโน้มตลาดซื้อขายไก่ชนในปี 2568

ปี 2568 ถือเป็นปีทองของตลาดไก่ชนในประเทศไทย เนื่องจากความนิยมของกีฬาไก่ชนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ในกลุ่มนักเลงไก่ชนเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองไก่ชนเป็นทั้งกีฬาและการลงทุนเชิงธุรกิจ ทำให้ตลาดซื้อขายไก่ชนในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมา

ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดไก่ชน

ความนิยมในกีฬาไก่ชนระดับประเทศ

การจัดแข่งขันที่ถ่ายทอดสดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ ช่วยขยายฐานผู้ชมจากทั่วประเทศ
สนามชนไก่มาตรฐานระดับประเทศ เช่น สนามเทิดไท สนามบางเลน และสนามมหาลาภ มีการแข่งขันทุกสัปดาห์ ส่งผลให้ไก่เก่ง ๆ ถูกจับตามองมากขึ้น

ไก่ชนสายพันธุ์แชมป์ราคาพุ่งสูง

ไก่ที่เคยชนะไฟท์ใหญ่ ๆ จะถูกนำมาขายพร้อมประวัติและวิดีโอการชน ทำให้ราคาสูงขึ้นตามความนิยม
ลูกไก่จากสายพันธุ์แชมป์ยังถูกจับจองตั้งแต่ยังไม่ฟักจากไข่ โดยมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน

แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์

ตลาดไก่ชนเริ่มเปลี่ยนผ่านจากการซื้อขายแบบออฟไลน์ในสนาม มาเป็นการค้าผ่านกลุ่ม Facebook, LINE และเว็บไซต์เฉพาะทาง เช่น “ตลาดไก่ชนไทย” หรือ “ไก่ชนออนไลน์”
ผู้ขายสามารถไลฟ์สดแสดงความสามารถของไก่ก่อนขายได้ทันที

ไก่ชนเป็นสินทรัพย์ลงทุน

นักลงทุนบางคนเริ่มมองว่าไก่ชนเป็น “สินทรัพย์ชีวภาพ” ที่มีมูลค่าเพิ่มได้ในระยะเวลาไม่นาน โดยเฉพาะหากมีผลงานในการแข่งขัน
ธุรกิจฟาร์มไก่ชนระดับกลาง-ใหญ่ขยายตัวขึ้นชัดเจน

กฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับไก่ชนในประเทศไทย

แม้ว่าไก่ชนจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับการยอมรับในหลายพื้นที่ของประเทศไทย แต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น การขออนุญาตเปิดสนามชน การเลี้ยงดูที่เหมาะสมตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ และการควบคุมการเล่นพนันให้เป็นไปตามกฎหมาย

📜 1. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับไก่ชนโดยตรง

✅ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478

การชนไก่ถือเป็นการพนันชนิดหนึ่ง ดังนั้น สนามไก่ชนต้องมี ใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เช่น นายอำเภอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด
การเปิดสนามชนไก่โดยไม่มีใบอนุญาต ถือว่าผิดกฎหมายตามมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้
สนามที่ได้รับอนุญาตแล้ว จะสามารถเก็บค่าเข้าชม และอนุญาตให้เดิมพันได้ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่

✅ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ. 2557

กำหนดให้การชนไก่ต้อง คำนึงถึงสวัสดิภาพของสัตว์
ห้ามกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการทารุณ หรือเจตนาทำให้ไก่บาดเจ็บรุนแรงโดยไม่จำเป็น
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

💡 ข้อยกเว้นสำคัญ
กีฬาไก่ชน ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการทารุณสัตว์ หากดำเนินการในสนามที่จดทะเบียน และอยู่ภายใต้กติกาที่ชัดเจน มีการควบคุมความรุนแรง
📝 2. ข้อกำหนดการขอเปิดสนามชนไก่
ผู้ต้องการเปิดสนามไก่ชนต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:
ยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (เช่น นายอำเภอ)
แสดงเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ใช้เป็นสนาม
แสดงแผนผังสนาม ระบบความปลอดภัย และมาตรการดูแลไก่
ต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมด้านการพนันที่ร้ายแรง
หลังจากได้รับใบอนุญาต จะมีการกำหนดวัน-เวลาเปิดทำการ และให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจตามระยะเวลาที่กำหนด
⚖️ 3. ข้อกำหนดในการจัดการแข่งขันไก่ชน
เพื่อให้การแข่งขันไก่ชนดำเนินไปอย่างยุติธรรมและไม่ก่อให้เกิดการทารุณ มีข้อกำหนดดังนี้:
ต้องใช้ไก่ชนที่มีสุขภาพดี ไม่มีการวางยาหรือเสริมอาวุธ
การแข่งขันต้องอยู่ภายใต้กติกา เช่น ตีไม่เกิน 5 ยก ยกละ 20 นาที
ต้องมี “กรรมการสนาม” ควบคุมการแข่งขัน
ห้ามปล่อยให้ไก่ชนจนตาย ต้องหยุดทันทีเมื่อพบว่าไก่ไม่สามารถสู้ต่อได้
📡 4. การถ่ายทอดสดและเล่นพนันออนไลน์
ในปัจจุบันมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันไก่ชนผ่านโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ซึ่งเข้าข่าย พนันออนไลน์ หากมีการเปิดให้เดิมพันผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย
การตั้งกลุ่มไลน์หรือเฟซบุ๊กเพื่อเปิดรับแทง ถือว่าผิดกฎหมาย
การถ่ายทอดสดเพื่อความบันเทิงสามารถทำได้ แต่ต้องไม่มีเนื้อหาส่งเสริมการพนัน
🐓 5. กฎการเคลื่อนย้ายไก่ชนระหว่างจังหวัด
ในกรณีที่ต้องการนำไก่ชนไปแข่งต่างจังหวัด หรือส่งขาย:
ต้องมี ใบรับรองสุขภาพสัตว์ จากสัตวแพทย์
ต้องแจ้ง ด่านกักกันสัตว์ ตามเส้นทางที่กำหนด
ห้ามเคลื่อนย้ายในช่วงที่มีการระบาดของโรค เช่น โรค Newcastle หรือโรคไข้หวัดนก

บทสรุป วงการไก่ชนไทยในปี 2568 กับอนาคตที่สดใส

วงการไก่ชนในประเทศไทยในปี 2568 ยังคงพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้เลี้ยง ผู้จัดการแข่งขัน และผู้ซื้อขายที่ใส่ใจในคุณภาพทั้งด้านสายพันธุ์ เทคนิคการฝึก และการดูแลสุขภาพไก่ชน นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้วงการนี้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน